แชร์ประสบการณ์ การเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองในเวลา 2 ปี จนพอฟัง VTuber ออกบ้าง

fastrich
4 min readJan 3, 2021

--

สวัสดีค่ะ fastrich แอดมินเพจ เรื่องทั่วไปใน Virtual YouTuber ค่ะ

ฝากเพจ https://www.facebook.com/VTuberArigachinaKoto

เห็นว่าช่วงนี้มีคนสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อดูวีทูบเบอร์กันมากขึ้น และเนื่องจากเราก็เป็นคนนึงที่ตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อดูวีทูบเบอร์โดยเฉพาะ ในบล็อกนี้ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาญี่ปุ่นของเราค่ะ

คำเตือน นี่ไม่ใช่การเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ถูกต้อง ไม่น่าจะเอาไปใช้เรียนต่อหรือทำงานได้

พื้นฐานของเราก่อนมาเรียนภาษาญี่ปุ่น

  • ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเลย ม.ปลาย เรียนสายวิทย์ มีวิชาภาษาจีน และอังกฤษพื้นฐาน และก็อังกฤษเพิ่มเติม
  • เรียนมหาลัยในคณะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาเริ่มสนใจอนิเมะและเพลงโวคัลลอยด์จริงๆ ก็ช่วงมหาลัยนี่แหละ
  • เคยลงเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นๆ ของมหาลัย เลยพอจำฮิรากานะกับคาตาคานะได้บ้างนิดหน่อย
  • อ่านอังกฤษพอคล่อง แต่ฟังไม่คล่อง เลยได้ TOEIC 590 T_T

ภาษาญี่ปุ่นในปัจจุบัน

  • สอบ N4 รอบมิถุนา 2019 ได้คะแนนผ่านคาบเส้น 94 คะแนน (ศัพท์-การอ่าน 64 คะแนน การฟัง 30 คะแนน)
  • หลังจากสอบ N4 ผ่านมา ก็เริ่มฟังคำง่ายๆ ได้บ้าง เริ่มรู้ตำแหน่งของคำในประโยค หรือถ้าคลิปของวีทูบเบอร์มีตัวหนังสือ (Telop) ในคลิปให้ เราก็สามารถเอาคันจิไปหาความหมายเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่วีทูบเบอร์พูดได้มากขึ้น
  • เนื่องจากนี่ไม่ใช่วิธีเรียนที่ถูกต้อง ดังนั้นเวลาแต่งประโยคก็จะออกมาแปลกๆ คันจิก็เขียนได้แค่ตัวง่ายๆ และพูดไม่ได้เลย (เราเป็นคนพูดไม่เก่งด้วยมั้ง)

การเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นของเรา

ช่วงนั้นเริ่มติดวีทูบเบอร์ อยากฟังภาษาญี่ปุ่นให้รู้เรื่องบ้าง และเริ่มทำงานแล้ว พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้าง เลยตัดสินใจเรียนภาษาญี่ปุ่น

ช่วงที่เรียนแรกๆ ต้องรื้อฟื้นตัวฮิรากานะและคาตากานะเยอะเลย แนะนำให้อ่านฮิรากานะให้คล่องๆ เอาแค่ฮิรากานะพอ จำพวกตัวควบ ตัวเต็นๆ ให้คล่อง เดี๋ยวอย่างอื่นจะตามมาเอง

รีวิวแอปที่ใช้เรียน

1. App Kanji Study

https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mindtwisted.kanjistudy

แอปนี้เป็นภาษาอังกฤษ เป็นแอปแรกๆ ที่เริ่มใช้เลย เห็นว่ามีเวอร์ชั่นทดลองใช้ฟรี เลยโหลดมามาลองซ้อมจำคันจิดูก่อน

เวอร์ชั่นฟรีของแอปนี้จะเปิดให้ลองคัดคันจิได้แค่ระดับ N5 ก็เลยลองโหลดมาคัดคันจิทุกวัน เริ่มจากคัดทีละตัว ทบทวนตัวเก่าทุกวัน แล้วเพิ่มจำนวนคันจิต่อวันไปเรื่อยๆ จนได้วันละ 5 ตัว

พอไปได้ซักพักเห็นว่าแอปนี้ดีจริง จึงตัดสินใจซื้อมา ประมาณ 300 กว่าบาท เวอร์ชั่นเสียเงินจะปลดล็อกทุกคำศัพท์ และสามารถค้นหาคำศัพท์ได้ด้วย แทบไม่ต้องซื้อ dictionary เลย คุ้มมาก

แอปจะหน้าตาประมาณนี้

รูป 1 บอกจำนวนวันที่ฝึก และเซ็ตของคันจิที่เราสร้างไว้
รูป 2 เราเลือกเป็นโหมด JLPT เอาไว้
ช่วงแรกๆ จะยังจำฮิรากานะไม่ได้ แนะนำให้ตั้งค่าเอาโรมันจิออกไปแบบนี้เพื่อฝึกอ่านให้คล่อง ถ้าอ่านไม่ออกก็ต้องทรมานตัวเองด้วยการเข้ามาเปิดๆ ปิดๆ ตรงนี้อยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะจำได้
รูป 3 ในแอปจะบอกความหมายของคันจิแต่ละตัว เข้าไปฝึกคัดคันจิได้ตรงจุดที่วงไว้ แต่ลำดับขีดต้องเขียนให้เป๊ะๆนะ

2. App AnkiDroid

https://play.google.com/store/apps/details?id=com.ichi2.anki

เป็นแอปสำหรับจำศัพท์ เหมือนบัตรคำศัพท์ (card) ที่จะมีด้านหน้าเป็นคำศัพท์ และด้านหลังเป็นคำแปล

เป็นแอปที่สามารถ sync ข้อมูลหากันข้ามแพลทฟอร์มได้ ถ้าอยู่บนคอมจะชื่อโปรแกรม Anki เฉยๆ บนเว็บจะชื่อ AnkiWeb
แอปนี้ดีตรงที่ ศัพท์ที่เราหาในแอป Kanji Study สามารถส่งมาสร้างเป็น card ในแอปนี้ได้

แอปมีหน้าตาแบบนี้

รูป 1 เปิดเข้ามาหน้าแรกจะเป็น deck หรือคลังคำศัพท์ที่เรามี 1 deck มีหลายการ์ด แต่ละ deck สามารถกำหนดหน้าตาการแสดงผลของการ์ด และระยะเวลาที่จะหยิบการ์ดมาดูอีกครั้งได้
รูป 2 การ์ดด้านหน้า: มีแค่คำศัพท์ เมื่อกดที่หน้าจอ การ์ดจะพลิกด้านหลังให้เห็นคำแปลตามรูปที่ 3
รูป 3 การ์ดด้านหลัง: จะขึ้นหลังจากกดที่หน้าจอ ถ้ายังจำคำนั้นไม่ได้ให้กดสีแดง แต่ถ้าจำได้แล้วให้เลือกกดระยะเวลาว่าจะให้โผล่มาอีกครั้งตอนไหน มันก็จะหายไปซักพักตามระยะเวลาที่เรากดไป

เนื่องจากมันยุ่งยาก อย่างง่ายที่สุดเลยก็คือ โหลด deck ที่คนอื่นทำเอาไว้ แล้ว import เข้ามา ส่วนมาก deck จะมีคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ
https://ankiweb.net/shared/decks/japanese

นอกจากนี้ แอปนี้ยังสามารถสร้างคลังคำศัพท์ของเราเองได้ด้วย ถ้าจำไม่ผิดต้องทำศัพท์เป็น .txt แล้วเอาเข้าไปผ่านทางโปรแกรม Anki บนคอม หน้าตาของไฟล์จะประมาณนี้ จะพิมพ์ใน excel แล้วค่อยก็อบมาวางก็ได้
deck นี้เราทำเอาไว้ 3 คอลัมน์ เป็น ตัวศัพท์ คำแปล และฮิรากานะ (ฮิรากานะใช้ตอนพิมพ์เซิร์จ) พออิมพอร์ตเข้ามาแล้ว จัดฟอร์แมตนิดหน่อยก็จะเป็นการ์ดเหมือนรูปข้างบนเลย

รีวิวหนังสือที่ใช้เรียน

เราเป็นพวกรักการอ่าน แต่เกลียดหนังสือที่เป็นเล่มๆ เพราะมันหนัก เลยพยายามเลี่ยงที่จะไม่ซื้อหนังสือ แต่เรียนภาษาญี่ปุ่นนี่มันเลี่ยงไม่ได้อะเนอะ
ดังนั้นรูปนี้จึงเป็นหนังสือทั้งหมดที่เรามี ทุกเล่มหาซื้อได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬา (สยามสแควร์) ที่นั่นมีบริการห่อปกด้วยสติ๊กเกอร์ด้วย พอห่อแล้วจะได้รับบัพความน่าอ่านน่าทัช 40%

หนังสือทุกเล่มที่เคยเรียน ก็มีอยู่แค่นี้แหละ

1. หนังสือ Minna no Nihongo ทั้ง 4 เล่ม

ตอนแรกยังไม่ชัวร์ว่าจะได้เรียนยาวๆ มั้ย เลยซื้อแค่เล่มแรกมาเล่มเดียว เรียนจบค่อยซื้อเล่มใหม่

เป็นหนังสือที่ดีเลย มีทั้งศัพท์ ไวยากรณ์ การอ่าน และการฟังครบในเล่มเดียว
เล่มนึงจะมีประมาณ 12 บท เค้าโฆษณาว่าถ้าจบเล่ม 4 จะสอบ N4 ได้

เราเริ่มซื้อมาตอนเดือนมกรา เลยตั้งเป้าว่าจะอ่านให้ได้สัปดาห์ละ 3 บท = เดือนละเล่ม เหลือช่วงทิ้งไว้อีกเดือนสำหรับทบทวน พอถึงเดือนมิถุนาก็คงจะไปสอบ N4 ได้พอดี

ผลคือพอขึ้นเล่ม 2 แล้วมันก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ บางสัปดาห์ก็ไม่ได้ 3 บทตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ อ่านแทบไม่ทันอะ อ่านไปจะร้องไห้ไป 55

2. หนังสือ แนวข้อสอบ N4 เล็มเล็กๆ สีฟ้า

ก่อนสอบ 1 สัปดาห์ก็ต้องหาแนวข้อสอบมาทำ เล่มนี้พอใช้ได้ เสียอย่างคือมันไม่ได้เฉลยอย่างละเอียดทุกข้ออะ บางข้อง่ายๆ ที่ให้ 1 ดาวเราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมต้องตอบแบบนั้น

เนื่องจากเราข้าม N5 ไปสอบ N4 เลย ดังนั้นเทคนิคของเราก็คือ อ่านแต่ศัพท์ N4 เราจะไม่จำวิธีการนับวันนับเลขที่ยุ่งยากของญี่ปุ่น หรือศัพท์หมวดง่ายๆ อย่าง ข้าวของเครื่องใช้ใกล้ตัว/อวัยวะในร่างกาย/ชื่อสัตว์
อีกเทคนิคนึงที่น่าสนใจคือ ถ้าจำคำกริยาได้เยอะๆ จะทำให้เข้าใจประโยคได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่รู้คำนามก็ตาม
ที่ว่ามาทั้งหมด ถ้าจะเรียนญี่ปุ่นเพื่อไปต่อยอดอย่างอื่น อย่าทำตามนะ 555

เราเว้นช่วงเดือนมิถุนา — ธันวา 2019 ไปพักนึง แล้วเริ่มมาเรียน N3 ใหม่ตอนช่วงหลังเดือนมกรา 2020
ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะสอบ N3 เดือนมิถุนา 2020 แต่โดนเลื่อน แถม N3 ยาก อ่านหนังสือก็ไม่ทัน เลยได้มาสอบเดือนธันวาคม 2020 แทน จะผ่านรึเปล่าก็ไม่รู้

3. หนังสือ Try JLPY N3

พอเรียนจบจากมินนะก็เริ่มเคว้ง ไม่รู้จะไปต่อที่ไหนดี มีคนบอกว่าเล่มนี้ดี เลยซื้อมา

เป็นหนังสือที่เริ่มด้วยบทอ่าน ตามด้วยไวยากรณ์ และแบบฝึกหัด ไม่มีศัพท์และคันจิ

แรกๆ ค่อนข้างยากเลย เพราะยังไม่ชินกับหนังสือใหม่ เจอศัพท์ใหม่เยอะ ในหนังสือไม่ได้ใส่คำแปลไว้ในบทให้ด้วย ทำให้ต้องสลับไปเปิดไฟล์ pdf เพื่อดูคำแปลอยู่ตลอด

ไวยากรณ์ที่เหมือนกันก็ไม่ได้อยู่ใกล้กัน ทำให้บางครั้งอาจจะสับสนได้ เรียนจบต้องมีเวลากลับมาทบทวนอีกที จะเข้าใจขึ้นมาก ถ้าชินแล้วก็เป็นหนังสือที่ดีเล่มนึงเลย

4. หนังสือ ไวยากรณ์ญี่ปุ่น เล่มเล็กๆ

เหมาะสำหรับเอาไว้ทบทวนไวยากรณ์ หัวข้อไวยากรณ์เรียงตามตัวอักษร เนื่องจากเล่มเล็ก สูงๆ จัดถนัดมือ จึงพกพาสะดวกดี เดินไปอ่านไปก็ยังได้ ข้อเสียคือ มีคำอ่านภาษาไทย และอธิบายไม่ละเอียดเท่าเล่ม Try มีแต่วิธีใช้กับตัวอย่างประโยค

5. หนังสือ โจทย์ 500 N3 สีเขียว

เป็นหนังสือที่เพิ่งออกมาใหม่เมื่อเดือนเมษามั้ง เป็นโจทย์ให้ทำวันละ 15 ข้อ โฆษณาไว้ว่าใช้เวลาแค่ 20 นาทีต่อวัน ซึ่งไม่จริง เราให้ครึ่งชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน

มีข้อสอบ 3 หมวดคือ คันจิ ศัพท์ และไวยากรณ์ (ไม่มีอ่านกับฟัง) หน้าละ 3 ข้อ เลือกทบทวนเฉพาะหมวดได้สะดวกดี

เล่มนี้ใช้เป็นหนังสือหลักไม่ได้ ต้องไปเรียนศัพท์และไวยากรณ์จากที่อื่นมาก่อน แล้วค่อยมาลองทำในเล่มนี้ เล่มนี้จะช่วยเสริมศัพท์และไวยากรณ์ที่เราขาดไปได้ค่อนข้างมาก

ขอยกให้เล่มนี้ดีที่สุดในบรรดาทุกเล่มที่ซื้อมา

6. หนังสือ การอ่าน N3 เล่มใหญ่ๆ สีขาวชมพู

เรารู้ตัวว่าอ่อนการอ่าน เลยซื้อมาช่วง 1 เดือนสุดท้ายก่อนสอบ ทำให้ต้องอ่านวันละ 2 บทความ แต่ก็ได้อยู่ ไม่ยากเกินไป เรียนจบทำให้อ่านได้เร็วขึ้นนิดหน่อย

เล่มนี้ใช้ง่ายกว่า Try เพราะจะมีคำศัพท์ของบทความมาให้ก่อนเล็กน้อย และมีคำแปลให้ทุกบทความเลย รู้งี้น่าจะซื้อซีรีย์นี้แทนเล่ม Try

ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า ว่าบทความวันแรกของแต่ละสัปดาห์จะง่ายแค่วันเดียว ที่เหลือจะแอบยาก เล่มนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าเข้าใจบทความก็จะเข้าใจเลย แต่ถ้าไม่เข้าใจก็จะไม่เข้าใจทั้งบทความ ฝืนตอบไปก็ตอบผิดอยู่ดี ดังนั้นเวลาทำข้อสอบให้เทข้อที่อ่านไม่เข้าใจออกไปก่อนได้เลย

วีทูบเบอร์ที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนญี่ปุ่น

(และตามแรงอวยของเรา)

1.Kizuna AI https://www.youtube.com/c/AIChannel/videos

2.Omega Sisters https://www.youtube.com/channel/UCNjTjd2-PMC8Oo_-dCEss7A

เป็นสายคลิปเหมือนกัน เลยขอพูดรวมกันเลย
2 แชนแนลนี้ จะมีตัวหนังสือ (Telop) อยู่ข้างล่าง ถ้าเรียนคันจิมาระยะนึง ตัวหนังสือข้างล่างนี่แหละจะช่วยให้เข้าใจความหมายได้เพิ่มขึ้น บวกกับท่าทางที่ชัดเจนของโมเดล 3D ทำให้ดูแค่ครึ่งคลิปก็รู้แล้วว่าวันนี้มาทำอะไร

อันนี้ศัพท์ N5 คลิปจะเขียนเป็น Telop ให้ดูแบบชัดๆ แล้วเราก็ได้จำคันจิไปด้วย

3. Qualia Qu https://www.youtube.com/channel/UCXtQTtPJedfjqEPysorbsMg
ครั้งแรกที่ฟังคือว้าวมาก ขนาดเป็นไลฟ์พูดคุยก็ฟังรู้เรื่องเกิน 75% แบบว่าที่เรียนมาไม่เสียเปล่า
คูใช้ศัพท์ง่ายด้วย จบ N4 ก็ฟังออก บอกเลย

นี่รูปปกตินะ เพราะปกติก็ไลฟ์ Apex

4. Inugami Korone https://www.youtube.com/channel/UChAnqc_AY5_I3Px5dig3X1Q

จริงๆ มี 3 ตัวเลือก อควา เปโกระ และโคโรเนะ เลือกยากอยู่
แต่ถ้าให้เลือกโฮโลไลฟ์มาแค่คนเดียว เราจะเลือกโคโรเนะ เพราะโคโรเนะจะพูดช้าลงมาหน่อย เสียงก็ฟังง่าย

Paper Please ไลฟ์นี้น้องเล่นเก่งอยู่นะเนี้ย

หมดละ ถ้านึกออกจะมาแก้เพิ่มอีก ขอตัดจบเลยละกัน 55

ละก็ ขอฝากเพจ เรื่องทั่วไปใน Virtual YouTuber ด้วยจ้า
https://www.facebook.com/VTuberArigachinaKoto
เนื่องจากช่วงนี้เราตามค่าย Re:AcT อยู่ ในเพจก็จะมีแต่ค่ายนี้แทบทุกวัน
เพราะค่ายนี้เป็นค่ายสายร้องเพลง ไลฟ์ส่วนใหญ่ก็เป็นไลฟ์ร้องเพลงกับเล่นเกม เลยฟังออกง่ายดี 😁

ส่วนคนในรูปปกก็คือ Shirane Yuki จาก Re:AcT น้องชอบร้องเพลงทุกวันเสาร์ ไปตามน้องได้น้า ~
https://www.youtube.com/channel/UCcD_EdnJcOjJMohDn435D3w

--

--

fastrich
0 Followers

เขียนเรื่องเรื่อยเปื่อย lifehack หวังว่าจะว่างมาเขียนนะ